Easy E-Receipt คืออะไร? ทำไมร้านของคุณถึงต้องรองรับมาตรการนี้
Last updated: 23 Dec 2025
28 Views

ทุกช่วงปลายปีหรือต้นปีใหม่ เรามักจะได้ยินชื่อโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่มาในชื่อต่าง ๆ กัน แต่มีหนึ่งโครงการที่กลายเป็นไฮไลท์สำคัญซึ่งทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต่างรอคอย นั่นคือ "Easy E-Receipt" (หรือชื่อเดิมที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง ช้อปดีมีคืน)
แม้ว่ารายละเอียดปลีกย่อยอาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี แต่ "หลักการทำงาน" ของ Easy E-Receipt จะมีความคล้ายกัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจมาตรการนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมตัวให้พร้อมและไม่พลาดโอกาสทองทางธุรกิจไป
Easy E-Receipt คืออะไร?
Easy E-Receipt คือ มาตรการลดหย่อนภาษีประเภทหนึ่ง ที่ภาครัฐออกมาเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยมีหลักการทำงานคือ "เปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาผู้มีหน้าที่เสียภาษี สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการในประเทศ มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินวงเงินที่รัฐบาลประกาศในปีนั้น ๆ"
สิ่งที่ทำให้มาตรการนี้แตกต่างและมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล คือ "หลักฐาน" ที่ต้องใช้ ซึ่งไม่ใช่ใบกำกับภาษีแบบกระดาษทั่วไป แต่เป็น "ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice)" หรือ "ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)" เท่านั้น
ใครได้ประโยชน์จากโครงการ Easy E-Receipt บ้าง?
มาตรการ Easy E-Receipt ถูกออกแบบมาให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายในระบบเศรษฐกิจ โดยจะมีผู้ที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ หลัก ๆ 2 กลุ่มได้แก่
ฝั่งผู้ซื้อ (บุคคลธรรมดา)
สำหรับผู้บริโภค โครงการนี้คือโอกาสทองในการ "เปลี่ยนรายจ่ายให้กลายเป็นเงินออมทางภาษี" ทุกการซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็นในช่วงเวลาของโครงการ จะสามารถนำกลับมาช่วยลดภาระภาษีในช่วงปลายปีได้ ทำให้การใช้จ่ายคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
ฝั่งผู้ขาย (ผู้ประกอบการและร้านค้า)
นี่คือโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญที่จะช่วย "กระตุ้นยอดขาย" ได้อย่างมหาศาล ลูกค้าจะมองหาร้านค้าที่สามารถออก e-Tax Invoice ได้เป็นอันดับแรก การเตรียมความพร้อมจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น "ความจำเป็น" เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
e-Tax Invoice ต่างจากใบกำกับภาษีกระดาษอย่างไร?
หลายคนอาจสงสัยว่า ในเมื่อก็เป็น "ใบกำกับภาษี" เหมือนกัน ทำไมภาครัฐจึงเจาะจงให้ใช้เฉพาะรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการ Easy E-Receipt ความแตกต่างที่สำคัญนั้นไม่ได้อยู่ที่ "ข้อมูล" แต่ อยู่ที่ "รูปแบบ" และ "กระบวนการ" ที่เชื่อมโยงกับระบบของกรมสรรพากรโดยตรง ซึ่งเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนได้ดังนี้
คุณสมบัติ
ใบกำกับภาษีกระดาษ
e-Tax Invoice
รูปแบบ
เอกสารที่พิมพ์ออกมาเป็นแผ่นกระดาษ
ข้อมูลดิจิทัลตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด (เช่น PDF/A-3)
การลงนาม
ใช้ลายเซ็นหมึกจริงและ/หรือประทับตรายาง
ใช้ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) เพื่อยืนยันตัวตน
การจัดส่ง
ส่งมอบให้ลูกค้าโดยตรง หรือส่งทางไปรษณีย์
ส่งมอบผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น อีเมล)
การตรวจสอบ
กรมสรรพากรตรวจสอบจากสำเนาเอกสาร ซึ่งใช้เวลา
ข้อมูลเชื่อมตรงกับระบบกรมสรรพากร ตรวจสอบได้ Real-time
แล้วใบกำกับภาษีกระดาษ ใช้ลดหย่อนในโครงการ Easy E-Receipt ได้ไหม?
ใบกำกับภาษีกระดาษ ใช้ลดหย่อนในโครงการ Easy E-Receipt ไม่ได้ เนื่องจากการใช้ข้อมูลดิจิทัลเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ของผู้เสียภาษีโดยอัตโนมัติ ระบบของกรมสรรพากรจะดึงข้อมูลจาก e-Tax Invoice ที่ร้านค้าส่งเข้าไปในระบบเท่านั้น ทำให้ใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษ ไม่สามารถนำมาใช้กับโครงการนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ใบกำกับภาษีกระดาษยังคงใช้เป็นหลักฐานในการคำนวณภาษีซื้อ-ภาษีขายสำหรับผู้ประกอบการได้ตามปกติ เพียงแต่ ไม่สามารถใช้ในโครงการลดหย่อนพิเศษที่รัฐกำหนดให้เป็นดิจิทัลเท่านั้น
ร้านค้าต้องเตรียมตัวอย่างไร? 3 ขั้นตอนสู่การเป็นร้านค้า "Easy E-Receipt Ready"
การเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการนี้ไม่ใช่เรื่องยาก และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคตของธุรกิจ
1. เข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง
ก่อนอื่น ธุรกิจของคุณต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการกับกรมสรรพากรอย่างถูกต้อง ซึ่งโดยส่วนใหญ่คือการเป็น "ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)" เพื่อให้มีสิทธิ์ในการออกใบกำกับภาษี
2. เลือกใช้ระบบ e-Tax Invoice ที่เชื่อถือได้
หัวใจสำคัญที่สุดคือการเลือกระบบที่จะมาช่วยคุณออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การเลือกใช้ผู้ให้บริการ Service Provider ที่ได้รับการรับรองอย่าง i-BOX by Netbay คือทางลัดสู่ความสำเร็จ เพราะระบบถูกออกแบบมาเพื่อ
ใช้งานง่าย: ไม่ซับซ้อน สามารถออกเอกสารได้ แม้ไม่มีความรู้ทางเทคนิค
เริ่มใช้งานได้ทันที : สามารถสมัครและใช้งานจริงได้ภายใน 1 วัน
ถูกต้องตามกฎหมาย 100%: เอกสารทุกฉบับมีการลง ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และมีรูปแบบตามที่กรมสรรพากรกำหนดทุกประการ
นำส่งข้อมูลอัตโนมัติ: หมดกังวลเรื่องการนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ระบบของ i-BOX จะจัดการให้คุณเอง
3. สื่อสารให้ลูกค้ารู้ว่า "ร้านเราพร้อม!"
เมื่อระบบพร้อมแล้ว อย่าลืมทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจน เช่น ติดป้ายหน้าร้าน, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย, หรือแจ้งลูกค้าโดยตรงว่า "ร้านของเราสามารถออก e-Tax Invoice สำหรับโครงการ Easy E-Receipt ได้"
ให้ร้านค้าของคุณเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ต้องมีตัวช่วยอย่าง i-BOX by Netbay
Easy E-Receipt ไม่ใช่แค่มาตรการลดหย่อนภาษีที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่มันคือสัญญาณที่ชัดเจนจากภาครัฐว่าอนาคตของระบบภาษีและการค้าของไทยคือ "ดิจิทัล" สำหรับผู้ประกอบการ คำถามสำคัญจึงไม่ใช่ 'จะปรับตัวดีไหม' แต่คือ 'จะปรับตัวอย่างไรให้ง่ายและคุ้มค่าที่สุด' เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจมหาศาลที่มาพร้อมกับโครงการนี้
และนี่คือจุดที่ i-BOX by Netbay เข้ามาเป็นตัวช่วยสำหรับธุรกิจคุณ
i-BOX by Netbay ไม่ใช่แค่โปรแกรมออกเอกสาร แต่เป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ร้านค้าของคุณ "Easy E-Receipt Ready" ได้ในทันที ช่วยให้คุณสามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ง่าย ๆ หมดกังวลเรื่องความซับซ้อนทางเทคนิค และพร้อมดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะ
ดังนั้นการลงทุนกับ i-BOX by Netbay วันนี้ จึงไม่ใช่แค่การเตรียมตัวสำหรับ Easy E-Receipt เพียงครั้งเดียว แต่คือการวางรากฐานให้ธุรกิจของคุณก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว สร้างความน่าเชื่อถือ ลดต้นทุนเอกสาร และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณในระยะยาวอย่างยั่งยืน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน e-Tax ของเรา และขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้แล้ววันนี้ที่ https://www.i-box.app/e-tax
แม้ว่ารายละเอียดปลีกย่อยอาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี แต่ "หลักการทำงาน" ของ Easy E-Receipt จะมีความคล้ายกัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจมาตรการนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมตัวให้พร้อมและไม่พลาดโอกาสทองทางธุรกิจไป
Easy E-Receipt คืออะไร?
Easy E-Receipt คือ มาตรการลดหย่อนภาษีประเภทหนึ่ง ที่ภาครัฐออกมาเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยมีหลักการทำงานคือ "เปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาผู้มีหน้าที่เสียภาษี สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการในประเทศ มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินวงเงินที่รัฐบาลประกาศในปีนั้น ๆ"
สิ่งที่ทำให้มาตรการนี้แตกต่างและมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล คือ "หลักฐาน" ที่ต้องใช้ ซึ่งไม่ใช่ใบกำกับภาษีแบบกระดาษทั่วไป แต่เป็น "ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice)" หรือ "ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)" เท่านั้น
ใครได้ประโยชน์จากโครงการ Easy E-Receipt บ้าง?
มาตรการ Easy E-Receipt ถูกออกแบบมาให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายในระบบเศรษฐกิจ โดยจะมีผู้ที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ หลัก ๆ 2 กลุ่มได้แก่
ฝั่งผู้ซื้อ (บุคคลธรรมดา)
สำหรับผู้บริโภค โครงการนี้คือโอกาสทองในการ "เปลี่ยนรายจ่ายให้กลายเป็นเงินออมทางภาษี" ทุกการซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็นในช่วงเวลาของโครงการ จะสามารถนำกลับมาช่วยลดภาระภาษีในช่วงปลายปีได้ ทำให้การใช้จ่ายคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
ฝั่งผู้ขาย (ผู้ประกอบการและร้านค้า)
นี่คือโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญที่จะช่วย "กระตุ้นยอดขาย" ได้อย่างมหาศาล ลูกค้าจะมองหาร้านค้าที่สามารถออก e-Tax Invoice ได้เป็นอันดับแรก การเตรียมความพร้อมจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น "ความจำเป็น" เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
e-Tax Invoice ต่างจากใบกำกับภาษีกระดาษอย่างไร?
หลายคนอาจสงสัยว่า ในเมื่อก็เป็น "ใบกำกับภาษี" เหมือนกัน ทำไมภาครัฐจึงเจาะจงให้ใช้เฉพาะรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการ Easy E-Receipt ความแตกต่างที่สำคัญนั้นไม่ได้อยู่ที่ "ข้อมูล" แต่ อยู่ที่ "รูปแบบ" และ "กระบวนการ" ที่เชื่อมโยงกับระบบของกรมสรรพากรโดยตรง ซึ่งเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนได้ดังนี้
คุณสมบัติ
ใบกำกับภาษีกระดาษ
e-Tax Invoice
รูปแบบ
เอกสารที่พิมพ์ออกมาเป็นแผ่นกระดาษ
ข้อมูลดิจิทัลตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด (เช่น PDF/A-3)
การลงนาม
ใช้ลายเซ็นหมึกจริงและ/หรือประทับตรายาง
ใช้ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) เพื่อยืนยันตัวตน
การจัดส่ง
ส่งมอบให้ลูกค้าโดยตรง หรือส่งทางไปรษณีย์
ส่งมอบผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น อีเมล)
การตรวจสอบ
กรมสรรพากรตรวจสอบจากสำเนาเอกสาร ซึ่งใช้เวลา
ข้อมูลเชื่อมตรงกับระบบกรมสรรพากร ตรวจสอบได้ Real-time
แล้วใบกำกับภาษีกระดาษ ใช้ลดหย่อนในโครงการ Easy E-Receipt ได้ไหม?
ใบกำกับภาษีกระดาษ ใช้ลดหย่อนในโครงการ Easy E-Receipt ไม่ได้ เนื่องจากการใช้ข้อมูลดิจิทัลเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ของผู้เสียภาษีโดยอัตโนมัติ ระบบของกรมสรรพากรจะดึงข้อมูลจาก e-Tax Invoice ที่ร้านค้าส่งเข้าไปในระบบเท่านั้น ทำให้ใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษ ไม่สามารถนำมาใช้กับโครงการนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ใบกำกับภาษีกระดาษยังคงใช้เป็นหลักฐานในการคำนวณภาษีซื้อ-ภาษีขายสำหรับผู้ประกอบการได้ตามปกติ เพียงแต่ ไม่สามารถใช้ในโครงการลดหย่อนพิเศษที่รัฐกำหนดให้เป็นดิจิทัลเท่านั้น
ร้านค้าต้องเตรียมตัวอย่างไร? 3 ขั้นตอนสู่การเป็นร้านค้า "Easy E-Receipt Ready"
การเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการนี้ไม่ใช่เรื่องยาก และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคตของธุรกิจ
1. เข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง
ก่อนอื่น ธุรกิจของคุณต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการกับกรมสรรพากรอย่างถูกต้อง ซึ่งโดยส่วนใหญ่คือการเป็น "ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)" เพื่อให้มีสิทธิ์ในการออกใบกำกับภาษี
2. เลือกใช้ระบบ e-Tax Invoice ที่เชื่อถือได้
หัวใจสำคัญที่สุดคือการเลือกระบบที่จะมาช่วยคุณออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การเลือกใช้ผู้ให้บริการ Service Provider ที่ได้รับการรับรองอย่าง i-BOX by Netbay คือทางลัดสู่ความสำเร็จ เพราะระบบถูกออกแบบมาเพื่อ
ใช้งานง่าย: ไม่ซับซ้อน สามารถออกเอกสารได้ แม้ไม่มีความรู้ทางเทคนิค
เริ่มใช้งานได้ทันที : สามารถสมัครและใช้งานจริงได้ภายใน 1 วัน
ถูกต้องตามกฎหมาย 100%: เอกสารทุกฉบับมีการลง ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และมีรูปแบบตามที่กรมสรรพากรกำหนดทุกประการ
นำส่งข้อมูลอัตโนมัติ: หมดกังวลเรื่องการนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ระบบของ i-BOX จะจัดการให้คุณเอง
3. สื่อสารให้ลูกค้ารู้ว่า "ร้านเราพร้อม!"
เมื่อระบบพร้อมแล้ว อย่าลืมทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจน เช่น ติดป้ายหน้าร้าน, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย, หรือแจ้งลูกค้าโดยตรงว่า "ร้านของเราสามารถออก e-Tax Invoice สำหรับโครงการ Easy E-Receipt ได้"
ให้ร้านค้าของคุณเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ต้องมีตัวช่วยอย่าง i-BOX by Netbay
Easy E-Receipt ไม่ใช่แค่มาตรการลดหย่อนภาษีที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่มันคือสัญญาณที่ชัดเจนจากภาครัฐว่าอนาคตของระบบภาษีและการค้าของไทยคือ "ดิจิทัล" สำหรับผู้ประกอบการ คำถามสำคัญจึงไม่ใช่ 'จะปรับตัวดีไหม' แต่คือ 'จะปรับตัวอย่างไรให้ง่ายและคุ้มค่าที่สุด' เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจมหาศาลที่มาพร้อมกับโครงการนี้
และนี่คือจุดที่ i-BOX by Netbay เข้ามาเป็นตัวช่วยสำหรับธุรกิจคุณ
i-BOX by Netbay ไม่ใช่แค่โปรแกรมออกเอกสาร แต่เป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ร้านค้าของคุณ "Easy E-Receipt Ready" ได้ในทันที ช่วยให้คุณสามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ง่าย ๆ หมดกังวลเรื่องความซับซ้อนทางเทคนิค และพร้อมดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะ
ดังนั้นการลงทุนกับ i-BOX by Netbay วันนี้ จึงไม่ใช่แค่การเตรียมตัวสำหรับ Easy E-Receipt เพียงครั้งเดียว แต่คือการวางรากฐานให้ธุรกิจของคุณก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว สร้างความน่าเชื่อถือ ลดต้นทุนเอกสาร และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณในระยะยาวอย่างยั่งยืน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน e-Tax ของเรา และขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้แล้ววันนี้ที่ https://www.i-box.app/e-tax
Related Content
ลดหย่อนภาษี 2569 เตรียมตัวยังไง? วางแผนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สรุปครบทุกรายการที่คุณใช้ประหยัดภาษีได้สูงสุดในปีนี้
ใบกำกับภาษี คืออะไร? ทำความเข้าใจเอกสารสำคัญทางธุรกิจ เรียนรู้วิธีออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้องทุกขั้นตอน สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่
ขายของออนไลน์ ต้องเสียภาษีไหม? ไขข้อสงสัยที่อาจทำให้คุณโดนภาษีย้อนหลัง และทำความเข้าใจเรื่อง e-Tax Invoice เพื่อจัดการภาษีอย่างมืออาชีพ


