Share

ลดหย่อนภาษี 2569 แบบไหนคุ้มสุด สิทธิ์อะไรลดหย่อนได้ เช็กได้ที่นี่

Last updated: 23 Dec 2025
75 Views
เมื่อใกล้เข้าสู่ปี 2569 หลายคนอาจจะยังไม่ได้นึกถึงเรื่องภาษี แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจแล้วการวางแผนลดหย่อนภาษี ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำตอนปลายปี แต่เป็นกิจกรรมที่ควรทำตลอดทั้งปี เพื่อให้เราสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยและคุ้มค่าที่สุด 


บทความนี้ i-BOX By Netbay จะขอมาแจกแนวทางที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวและวางแผนการใช้จ่ายและการลงทุนเพื่อเป้าหมาย "ประหยัดภาษีสูงสุด" สำหรับการยื่นภาษีในช่วงต้นปี 2569

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คืออะไร ? 

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีที่รัฐจัดเก็บโดยตรงจากบุคคลที่มี "เงินได้" เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากเงินเดือน, การทำธุรกิจ, การค้าขาย, ค่าเช่า, หรือเงินปันผลก็ตาม โดยมีหลักการคือ "ยิ่งมีรายได้สุทธิสูง อัตราภาษีที่ต้องจ่ายก็จะยิ่งสูงขึ้น" ตามโครงสร้างอัตราภาษีแบบขั้นบันได

ใครที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ? 

ตามกฎหมาย ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นในระหว่างปีภาษี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลสัญชาติไทยหรือชาวต่างชาติที่ทำงานหรือมีแหล่งเงินได้ในประเทศไทย ล้วนมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี โดยเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่บังคับให้ต้องยื่นภาษีคือ ผู้ที่มีเงินได้จากเงินเดือนเกิน 120,000 บาทต่อปี หรือมีเงินได้ประเภทอื่นเกิน 60,000 บาทต่อปี


 

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ยื่นตอนไหน
การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามี 2 รอบสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ คือ
1. การยื่นภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.94): สำหรับผู้ที่มีเงินได้ประเภทอื่นนอกเหนือจากเงินเดือน (เช่น ค่าเช่า, ค้าขาย, ฟรีแลนซ์) ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค. - มิ.ย.) โดยต้องยื่นภายในเดือนกันยายนของปีนั้น ๆ
2. การยื่นภาษีประจำปี (ภ.ง.ด.90/91): เป็นการสรุปรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปีภาษี (ม.ค. - ธ.ค.) เพื่อยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป


รายการลดหย่อนภาษี 2569 มีอะไรบ้าง

การลดหย่อนภาษีคือสิทธิประโยชน์ที่กฎหมายมอบให้เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระภาษีของเรา การทำความรู้จักรายการลดหย่อนต่างๆ จะช่วยให้เราวางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น


ประเภทที่ 1 หักลดหย่อนตัวเอง คู่สมรส พ่อแม่ บุตร คนในครอบครัว
กลุ่มนี้เป็นค่าลดหย่อนพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับตัวเราและบุคคลในครอบครัว ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ผู้เสียภาษีส่วนใหญ่ใช้กัน


ค่าลดหย่อนส่วนตัว: 60,000 บาท
ค่าลดหย่อนคู่สมรส: 60,000 บาท (สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนและไม่มีเงินได้)
ค่าลดหย่อนบุตร: คนแรก 30,000 บาท, คนที่ 2 เป็นต้นไป (เกิดตั้งแต่ปี 2561) 60,000 บาท
ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูบิดามารดา: คนละ 30,000 บาท (ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด)
ประเภทที่ 2 ค่าลดหย่อนประเภทประกัน
การสร้างความคุ้มครองให้ชีวิตและสุขภาพ ถือเป็นการลงทุนที่นอกจากจะเป็นหลักประกันสำหรับตัวเองแล้ว ยังมีสิทธิ์ในการนำไปลดหย่อยภาษีได้ด้วย โดยรายละเอียดมีดังนี้


ประกันสังคม: ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 9,000 บาท
เบี้ยประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพตนเอง: รวมกันแล้วลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา: ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ: ลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
ประเภทที่ 3 ค่าลดหย่อนประเภทกองทุน
นอกจากการประกันแล้ว การลงทุนในกองทุนระยะยาวยังเป็นเครื่องมือชั้นยอดในการสร้างความมั่งคั่งสำหรับวัยเกษียณ


กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF): ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) / กบข.: ลดหย่อนได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
ข้อควรจำ: ยอดลดหย่อนรวมของกลุ่มการออมเพื่อการเกษียณทั้งหมด (ประกันบำนาญ, SSF, RMF, PVD/กบข.) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ประเภทที่ 4 ค่าลดหย่อนจากดอกเบี้ยบ้าน - สร้างบ้าน
สำหรับคนมีบ้าน ดอกเบี้ยที่จ่ายไปในแต่ละปีถือเป็นค่าลดหย่อนรายการใหญ่ที่ช่วยประหยัดภาษีได้มาก เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ก็สามารถนำดอกเบี้ยที่จ่ายจริงมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท


ประเภทที่ 5 ค่าลดหย่อนประเภทกระตุ้นเศรษฐกิจ
กลุ่มนี้คือไฮไลท์ที่ผู้เสียภาษีต้องจับตามองเป็นพิเศษในแต่ละปี เพราะเป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง


โครงการ Easy E-Receipt : หากภาครัฐมีประกาศในปี 2569 จะสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนได้ ซึ่งมักบังคับให้ใช้หลักฐานเป็น ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice)
โครงการเที่ยวดีมีคืน : เป็นมาตรการรัฐที่สนับสนุนกระตุ้นให้ผู้คนเกิดการไปเที่ยว ใช้จ่ายตามเมืองรองของประเทศไทย โดยสามารถนำค่าโรงแรม ค่าร้านอาหาร มาใช้ลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งถ้าใช้จ่ายในจังหวัดเมืองรอง จะได้ลดหย่อนภาษีสูงสุด 2 เท่า 
ประเภทที่ 6 ค่าลดหย่อนประเภทเงินบริจาค
การบริจาคไม่เพียงแต่สร้างบุญอย่างเดียว แต่ยังเป็นหนึ่งในวิธีการลดหย่อนภาษีได้ด้วย โดยในส่วนของเงินบริจาค จะสามารถนำมาลดหย่อยภาษีได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้


เงินบริจาคทั่วไป: ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น
เงินบริจาคเพื่อการศึกษา,โรงพยาบาลรัฐ: สามารถลดหย่อนได้ถึง 2 เท่าของเงินที่บริจาคจริง
ประเภทที่ 7 ค่าลดหย่อนอื่น ๆ
นอกเหนือจากรายการข้างต้นแล้ว ยังมีค่าลดหย่อนอื่นๆ ที่น่าสนใจและอาจเกี่ยวข้องกับคุณ เช่น ค่าฝากครรภ์และทำคลอด สามารถนำมาลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท


 

แนะนำ i-BOX By Netbay ตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ประกอบการออก e-Tax Invoice ได้
การที่มาตรการรัฐเน้นใช้ e-Tax Invoice ถือเป็นสัญญาณสำคัญ หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ การเตรียมความพร้อมด้วยระบบออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์อย่าง i-BOX by Netbay จะทำให้ร้านค้าของคุณไม่พลาดโอกาสในการขายช่วงที่สำคัญที่สุดของปี และยังช่วยให้การจัดการเอกสารเป็นเรื่องง่ายอีกด้วย 
ไม่พลาดทุกโอกาสในการขาย: ในช่วงที่ภาครัฐจัดโครงการ ลูกค้าจะมองหาร้านค้าที่สามารถออก e-Tax Invoice ได้โดยเฉพาะ หากร้านของคุณพร้อม คุณจะกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ทันที
ยกระดับความน่าเชื่อถือ: การออกเอกสารดิจิทัลที่ถูกต้องและรวดเร็ว แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ สร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า
ลดขั้นตอน ลดต้นทุน: ระบบอัตโนมัติของ i-BOX จะช่วยคุณจัดการเอกสารตั้งแต่การสร้าง, ส่งมอบให้ลูกค้า, ไปจนถึงการนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ช่วยลดความผิดพลาดจากการคีย์ข้อมูล ลดต้นทุนการพิมพ์และจัดเก็บกระดาษ ให้คุณมีเวลาไปโฟกัสกับการเติบโตของธุรกิจได้อย่างเต็มที่
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน e-Tax ของเรา และขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้แล้ววันนี้ที่ https://www.i-box.app/e-tax


คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี 2569  
การลดหย่อนภาษีมีประโยชน์อย่างไร? 
ตอบ : ประโยชน์หลักคือช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถจ่ายภาษีน้อยลง หรือได้รับเงินคืนภาษีมากขึ้น และยังช่วยส่งเสริมการออม การลงทุน และการบริจาคเพื่อสังคมด้วย


ถ้าไม่ได้ยื่นลดหย่อนภาษี จะเกิดอะไรขึ้น?
ตอบ : หากคุณมีสิทธิ์ลดหย่อนแต่ไม่ได้ยื่น คุณก็จะเสียภาษีตามเงินได้พึงประเมินเต็มจำนวนโดยไม่ได้ประโยชน์จากการลดหย่อนที่ควรจะได้รับ ทำให้คุณอาจจ่ายภาษีเกินความจำเป็น


RMF และ SSF แตกต่างกันอย่างไรในการลดหย่อนภาษี? 
ตอบ : RMF (กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ) มีวัตถุประสงค์เพื่อการเกษียณและต้องถือครองจนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ ส่วน SSF (กองทุนรวมเพื่อการออม) มีวัตถุประสงค์เพื่อการออมระยะยาวและต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปี

ประกันชีวิตสามารถลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
ตอบ : เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี และสำหรับเบี้ยประกันบำนาญสามารถลดหย่อนเพิ่มได้อีก 200,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้


ถ้าไม่ได้ยื่นลดหย่อนภาษี จะเกิดอะไรขึ้น?
ตอบ : หากคุณมีสิทธิ์ลดหย่อนแต่ไม่ได้ยื่น คุณก็จะเสียภาษีตามเงินได้พึงประเมินเต็มจำนวนโดยไม่ได้ประโยชน์จากการลดหย่อนที่ควรจะได้รับ ทำให้คุณอาจจ่ายภาษีเกินความจำเป็น 

Related Content
Easy E-Receipt คืออะไร? ทำไมร้านของคุณถึงต้องรองรับมาตรการนี้
Easy E-Receipt คืออะไร? สรุปครบทุกเรื่องที่ผู้ประกอบการและร้านค้าต้องรู้เกี่ยวกับมาตรการลดหย่อนภาษี และวิธีเตรียมพร้อมธุรกิจของคุณ!
ใบกำกับภาษีคืออะไร? สอนวิธีออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้อง
ใบกำกับภาษี คืออะไร? ทำความเข้าใจเอกสารสำคัญทางธุรกิจ เรียนรู้วิธีออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้องทุกขั้นตอน สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่
ขายของออนไลน์ต้องเสียภาษีไหม? รู้ก่อนโดนเรียกย้อนหลัง
ขายของออนไลน์ ต้องเสียภาษีไหม? ไขข้อสงสัยที่อาจทำให้คุณโดนภาษีย้อนหลัง และทำความเข้าใจเรื่อง e-Tax Invoice เพื่อจัดการภาษีอย่างมืออาชีพ
This website uses cookies to enhance your experience and providing the best service from us. Please confirm the acceptance. You can learn more about our use of cookies from our Policy. นโยบายความเป็นส่วนตัว and นโยบายคุกกี้
Compare product
0/4
Remove all
Compare