e-Tax คืออะไร? อัปเดต 2568 ใช้อย่างไรให้ถูกต้องตามกฏหมาย
e-Tax คืออะไร? อัปเดต 2568 ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ
ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยความเร็ว การทำธุรกิจก็ต้องปรับตัวให้ทันโลก กรมสรรพากรจึงได้พัฒนาระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ แต่หลายคนอาจยังตั้งคำถามว่า e-Tax คืออะไรกันแน่? มีความสำคัญอย่างไร และในปี 2568 ที่กำลังจะมาถึงนี้ มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง?
บทความนี้ i-BOX By Netbay จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของระบบ e-Tax เพื่อให้คุณเข้าใจและนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพที่สุด
e-Tax คืออะไร? เจาะลึกระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องรู้
e-Tax คือ ระบบที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการจัดทำและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) แทนการออกใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษแบบเดิมโดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัลที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถตรวจสอบได้
หรืออธิบายง่าย ๆ ว่า e-Tax คือ การเปลี่ยนกระบวนการด้านเอกสารภาษีทั้งหมดให้มาอยู่บนโลกออนไลน์ ตั้งแต่การสร้างเอกสาร, ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature), การส่งมอบให้คู่ค้า และการนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรโดยตรง ซึ่งช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก ลดการใช้กระดาษ และลดความผิดพลาดได้ในการทำงานด้านภาษีให้กับธุรกิจได้โดยตรง
องค์ประกอบสำคัญของระบบ e-Tax ที่ต้องรู้จัก
เพื่อให้เข้าใจว่า e-Tax คือระบบที่ทำงานอย่างไร เราต้องรู้จัก 2 องค์ประกอบหลักขอ e-Tax ที่ผู้ประกอบการทุกคนควรต้องรู้จักกันก่อน ว่ามีอะไรบ้าง
1. e-Tax Invoice
หลายคนมักสงสัยว่า e-tax invoice คืออะไร? มันแตกต่างจากใบกำกับภาษีทั่วไปหรือไม่? คำตอบคือ e-tax invoice คือ ใบกำกับภาษีเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ที่จัดทำขึ้นในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ รูปแบบ PDF/A-3 ซึ่งจะต้องมีการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Certificate Authority, CA) เพื่อยืนยันความถูกต้องและตัวตนของผู้ออกเอกสาร ทำให้เอกสารมีความน่าเชื่อถือและมีผลทางกฎหมายเทียบเท่ากับใบกำกับภาษีที่เป็นกระดาษทุกประการ2. e-Receipt
e-Receipt หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ก็คือใบเสร็จรับเงินที่ถูกสร้างและจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เช่นเดียวกัน ใช้เป็นหลักฐานการรับชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดการพิมพ์เอกสารและจัดเก็บอย่างเป็นระบบ
ประโยชน์ของ e-Tax Invoice มีอะไรบ้าง ?
การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบ e-Tax Invoice ไม่ใช่แค่การปรับตัวตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่คือการปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจในหลายมิติ ช่วยให้องค์กรของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนี่คือ 5 ประโยชน์ของการนำเอาระบบ e-Tax Invoice เข้ามาใช้ในองค์กรของคุณ1. ลดต้นทุนทางตรงและทางอ้อมอย่างชัดเจน
ลืมภาพของการสั่งซื้อกระดาษ, หมึกพิมพ์, ซองจดหมาย และค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสารไปได้เลย e-Tax Invoice ช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนที่จับต้องได้เหล่านี้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนแฝงในการจ้างพนักงานมาจัดการเอกสาร และลดค่าใช้จ่ายด้านพื้นที่ในการจัดเก็บแฟ้มใบกำกับภาษีที่นับวันจะยิ่งเพิ่มขึ้นอีกด้วย2. เพิ่มประสิทธิภาพและลดขั้นตอนการทำงานให้สะดวกขึ้น
กระบวนการตั้งแต่การสร้างใบกำกับภาษี, การอนุมัติ, การส่งมอบให้ลูกค้า และการนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร จะถูกรวบแบบอัตโนมัติ ทำให้พนักงานสามารถออกเอกสารและส่งอีเมลถึงลูกค้าได้ในไม่กี่คลิก ช่วยลดระยะเวลาทำงานที่ซ้ำซ้อน ทำให้ทีมบัญชีและการเงินมีเวลาไปโฟกัสกับงานอื่น ๆ ที่สร้างมูลค่าให้ธุรกิจได้มากกว่า3. เพิ่มความแม่นยำและลดความผิดพลาดของข้อมูล
การคีย์ข้อมูลด้วยมือเป็นสาเหตุหลักของความผิดพลาด ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt, โดยเฉพาะเมื่อใช้ผ่าน Service Provider ที่มีมาตรฐาน, จะมีกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเบื้องต้น เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, รูปแบบวันที่ ซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้อย่างมาก เมื่อข้อมูลถูกต้องตั้งแต่ต้น ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการทำเอกสารเพิ่มเติมทีหลัง4. ปลอดภัยและน่าเชื่อถือด้วย Digital Signature
เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกฉบับจะถูกประทับด้วยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Certificate Authority, CA) ซึ่งเปรียบเสมือนการลงลายมือชื่อและประทับตรายางบนเอกสารกระดาษ ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของผู้ออกเอกสารและมั่นใจได้ว่าเอกสารไม่ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงภายหลัง ซึ่งมีความน่าเชื่อถือและมีผลผูกพันทางกฎหมาย 100%5. สะดวก ค้นหาง่าย และเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
ข้อมูลใบกำกับภาษีจะถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัลบนระบบคลาวด์ทำให้คุณหรือทีมงานสามารถค้นหาเอกสารเก่าๆ ได้ในเวลาไม่กี่วินาที ไม่ต้องเสียเวลาไปรื้อค้นจากแฟ้มเอกสารอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต ตอบโจทย์การทำงานในยุค Remote Working ได้เป็นอย่างดีธุรกิจรูปแบบไหนที่เหมาะกับระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt บ้าง ?
คำตอบคือ ทุกธุรกิจที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ก็ตาม ตั้งแต่ SME ไปจนถึงบริษัทมหาชน ก็สามารถยื่นขอใช้งานระบบนี้ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนให้กับองค์กรช่องทางการนำส่งข้อมูล E-Tax ให้กรมสรรพากร ทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง ?
เมื่อคุณตัดสินใจใช้ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt แล้ว จะมี 3 ช่องทางหลักในการนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ได้แก่- Host-to-Host : เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีฝ่าย IT ที่แข็งแกร่ง สามารถพัฒนาระบบเชื่อมต่อกับกรมสรรพากรได้โดยตรง มีความซับซ้อนและใช้ต้นทุนเริ่มต้นสูง
- RD Website (เว็บไซต์ของกรมสรรพากร) : เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กและต้องมีความรู้พื้นฐานด้าน IT เนื่องจากต้องนำส่งทีละหลายการและต้องจัดรูปแบบให้ได้ตามที่กรมกำหนดเท่านั้น โดยการใช้งานผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร จะต้องมีการอัปโหลดไฟล์ XML หรือ ZIP ที่มีข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax) รวมถึงเอกสารอื่น ๆ เช่น ใบเสร็จ ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ ฯลฯ ระบบจะตรวจสอบโครงสร้างและลายเซ็นดิจิทัลให้อัตโนมัติ พร้อมแจ้งผลว่าสำเร็จหรือไม่
- ผู้ให้บริการ (Service Provider) : เป็นช่องทางที่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ SME หรือธุรกิจที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องลงทุนพัฒนาระบบเอง โดย Service Provider ที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร (เช่น i-BOX By Netbay) ที่เป็นเครื่องมือทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจัดทำและนำส่งข้อมูลด้านภาษีไปยังกรมสรรพากรโดยตรงให้คุณอย่างถูกต้องและปลอดภัย
- ขั้นตอนการเริ่มต้นออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax กับ i-BOX By Netbay
- หลังจากได้เห็นถึงประโยชน์และโอกาสทางธุรกิจมากมาย คำถามสำคัญต่อมาก็คือ "แล้วจะเริ่มต้นออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax อย่างไร?" ซึ่งเราได้ทำการรวบรวมขั้นตอนในการใช้งาน i-BOX By Netbay ที่คุณต้องรู้มาให้แล้ว
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมความพร้อมและลงทะเบียนกับกรมสรรพากร
ก่อนอื่น บริษัทของคุณต้องมี ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Certificate) เพื่อใช้เป็นลายมือชื่อดิจิทัล จากนั้นจึงเข้าไปยื่นคำขออนุมัติใช้งานระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt กับกรมสรรพากร (ยื่นแบบ บ.อ.01) ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นประตูบานแรกสู่ระบบภาษีดิจิทัลซึ่งคุณสามารถสร้างแบบ บ.อ.01 ผ่านการใช้ Digital Certificate ของ Netbay ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจาก Netbay เป็น Advanced Service Provider (ASP) ที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพากร สามารถจัดทำ, นำส่ง และจัดเก็บ e-Tax แทนลูกค้าได้ครบวงจร ทำให้คุณไม่ต้องลงทุนเองในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และยังมั่นใจได้ในความถูกต้องตามกฎหมายได้อีกด้วย
ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อระบบของคุณเข้ากับ i-BOX
หัวใจของความง่ายและรวดเร็วคือการเชื่อมต่อข้อมูล i-BOX ถูกออกแบบมาให้รองรับการเชื่อมต่อกับระบบที่คุณคุ้นเคยได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบบัญชี, ERP หรือระบบ POS พร้อมจัดทำเป็นรูปแบบ XML ตามรูปแบบที่กรมสรรพากรกำหนดขั้นตอนที่ 3: จัดทำและนำส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อระบบเชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างจะกลายเป็นเรื่องอัตโนมัติทันที ระบบของ i-BOX จะดึงข้อมูลจากระบบของคุณมาเพื่อจัดทำเป็นไฟล์ XML ตามรูปแบบที่กรมสรรพากรกำหนด และแปลงเป็นไฟล์ PDF/A-3 ที่สามารถปรับรูปแบบ (Customize) ให้เป็นดีไซน์ของบริษัทคุณได้ จากนั้น คุณก็สามารถนำส่งเอกสารให้คู่ค้าและกรมสรรพากรได้ในไม่กี่คลิกขั้นตอนที่ 4: ติดตามสถานะและจัดเก็บเอกสารอย่างปลอดภัย
หลังจากนำส่งเอกสารแล้ว คุณสามารถติดตามสถานะการนำส่งกับกรมสรรพากรได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบของ i-BOX เอกสารทั้งหมดจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัยบนระบบคลาวด์ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ตัดปัญหาเรื่องการหาพื้นที่จัดเก็บเอกสาร และทำให้การค้นหาข้อมูลย้อนหลังทำได้อย่างง่ายดายก้าวสู่ระบบ E-Tax อย่างมีประสิทธิภาพ ทำไม i-BOX by Netbay คือคำตอบที่คุณมองหา?
การทำความเข้าใจว่า e-Tax คืออะไร, มีประโยชน์อย่างไร และมีขั้นตอนอะไรบ้าง คือก้าวแรกที่สำคัญ แต่การเลือก "ตัวช่วย" ที่จะพาคุณเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยนั้นสำคัญยิ่งกว่า เพราะการเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องแค่กับเทคโนโลยี แต่ยังหมายถึงความถูกต้องทางกฎหมายที่สำคัญกับธุรกิจของคุณi-BOX by Netbay ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ แต่เราคือผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจระบบงานภาษีและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย ที่พร้อมเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่จะทำให้การเริ่มต้นใช้งาน e-Tax ของคุณเป็นเรื่องง่าย
เลือก i-BOX by Netbay แล้วธุรกิจของคุณจะได้อะไร ?
- ความน่าเชื่อถือระดับประเทศ : i-BOX คือบริการจาก Netbay ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของระบบเชื่อมโยงข้อมูลขององค์กรขนาดใหญ่และหน่วยงานภาครัฐมากมาย คุณจึงมั่นใจได้ในเสถียรภาพและความปลอดภัยของระบบ
- ผู้ให้บริการ e-Tax รายแรกของประเทศไทย : เราเข้าใจว่าทุกธุรกิจมีระบบงานที่แตกต่างกัน i-BOX จึงถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับระบบ ERP หรือโปรแกรมบัญชีที่คุณใช้อยู่ได้อย่างง่ายดาย พร้อมรองรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ ไม่ใช่แค่ e-Tax Invoice แต่รวมถึง e-Receipt และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล : หมดกังวลเรื่องปัญหาทางเทคนิคหรือข้อสงสัยด้านการใช้งาน ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขึ้นระบบไปจนถึงการใช้งานจริง
- มากกว่าการส่งเอกสาร แต่คือการจัดการข้อมูล : ระบบของเราช่วยให้คุณติดตามสถานะ จัดการ และค้นหาเอกสารทั้งหมดได้จากที่เดียว พร้อมฟังก์ชันออกรายงานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อธุรกิจได้อย่างสะดวกสบาย
อย่าให้ความซับซ้อนของเทคโนโลยีมาเป็นอุปสรรคในการเติบโตของธุรกิจคุณ ให้ i-BOX by NETbay เป็นตัวช่วยที่จะนำคุณก้าวสู่โลกดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและเต็มประสิทธิภาพ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน e-Tax ของเรา และขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้แล้ววันนี้ที่ https://www.i-box.app/e-tax